11 ข้อดีของการทำบำบัดชีวิตคู่

105 จำนวนผู้เข้าชม  | 

11 ข้อดีของการทำบำบัดชีวิตคู่

11 ข้อดีของการทำบำบัดชีวิตคู่


ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner

การทำบำบัดชีวิตคู่ (Couples therapy) นั้นมีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาด้านสัมพันธภาพในการใช้ชีวิตคู่เป็นอย่างมาก  Couples therapy ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาทักษะด้านการใช้ชีวิตคู่ การทำบำบัดชีวิตคู่ (Couples Therapy)  ช่วยให้ทั้งคู่ได้สำรวจที่มาและต้นตอของปัญหาที่นำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างคนสองคน และช่วยเร่งหาวิธีแก้ไข ป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่โตที่อาจส่งผลกระทบต่อลูกๆ และสมาชิกที่อยู่ร่วมกันในครอบครัวได้

การทำบำบัดชีวิตคู่ (Couples Therapy) เป็นการบำบัดด้านความสัมพันธ์ของคนสองคน และให้คนทั้งคู่ได้เห็นปัญหาที่แท้จริงโดยผ่านการสะท้อนมุมมองของนักจิตวิทยา (คนนอก) ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้อง หรือส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งคู่ และไม่มีอคติต่อการร่วมชีวิตของคนทั้งสอง การบำบัดชีวิตคู่ช่วยให้คู่ชีวิตได้ปรับปรุงทักษะด้านการสื่อสาร รับรู้มุมมองและทัศนคติของอีกฝ่ายเพื่อสานสายใยความรักความโรแมนติกให้มีมากยิ่งขึ้น การบำบัดชีวิตคู่ช่วยให้ปัญหาชีวิตคู่ได้รับการเยียวยาฟื้นฟูและสามารถสานสัมพันธ์ของชีวิตคู่ให้เติบโตต่อไปได้

หากคาดหวังถึงความเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงด้านความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ของเราให้ดีขึ้นนั้น คู่รักทั้งคู่ควรต้องมาพบผู้เชี่ยวชาญด้วยกันและมีพันธสัญญาในการลงมือลงแรงเพื่อแก้ไขปรับปรุงสัมพันธภาพหลังเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ นำคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญไปลงมือปฎิบัติจนเกิดผลและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นกับชีวิตคู่โดยไม่ย่อท้อง่ายๆ การสร้างสัมพันธภาพให้แน่นแฟ้นนั้นควรต้องพิจรณาและปรับปรุงสัมพันธภาพที่เคยมีปัญหา นำแนวทางแก้ไขไปปรับใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสัมพันภาพให้แก่กันและกัน สร้างความเชื่อใจ มีความเมตตาต่อกัน มีความรักที่จริงใจ รู้สึกถึงความเห็นอกเห็นใจกัน ให้เกียรติกัน รวมทั้งคอยหมั่นเสริมสร้างสายใยความรักความผูกพันธ์ให้ยั่งยืน




ประโยชน์ของการทำ Couples Therapy มีอะไรบ้าง

1. เข้าใจการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่มักเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

Couples Therapy ช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจถึงความสัมพันภาพของคนทุกคนที่มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการพิจารณาบทบาทของสมาชิกในครอบครัว เช่น ใครเป็นใหญ่ในบ้าน ในครอบครัวมีความสมดุลด้านสัมพันธภาพกันไหม การสื่อสารเป็นรูปแบบใด ค่อนข้างไปในเชิงลบหรือไม่ การตัดสินใจใดบ้างที่มักนำสู่ความขัดแย้ง ไม่เห็นพ้องต้องกัน และมักทำให้เกิดปัญหา  เวลาขัดแย้งหรือไม่ลงรอยทั้งคู่มีวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านั้นอย่างไร รูปแบบและสไตล์ความรักของชีวิตคู่เราเป็นแบบไหน หลายคำตอบจะช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจช่วงเวลาสุขและทุกข์เพื่อนำมาเรียนรู้ แก้ไขและปรับปรุงให้สัมพันธภาพแข็งแกร่งมากขึ้น

2. ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสัมพันธภาพชีวิตคู่และครอบครัว

นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธชีวิตคู่และชีวิตครอบครัว เป็นผู้มีความรู้ มีทฤษฎีหลักการ มีทักษะในการแก้ไขปัญหาและมีวิธีการจัดการกับความขัดแย้งด้านความสัมพันธ์อย่างเป็นเหตุเป็นผล ช่วยให้คู่ชีวิตเห็นถึงปัญหาและผลที่ตามมา ผู้เชี่ยวชาญช่วยให้เรามีแนวทางและทักษะในการใช้ชีวิตคู่มากขึ้น ด้วยประสบการณ์ด้านการปรึกษาสัมพันภาพชีวิตคู่อย่างมืออาชีพจึงทำให้การบำบัดชีวิตคู่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ไว้ใจเมื่อไปรับบริการ นักจิตวิทยาความสัมพันธ์ชีวิตคู่จะรับฟังความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและไม่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งคู่อาจได้เห็นมุมมองใหม่เกี่ยวกับการมองเห็นชีวิตคู่ของตนที่เป็นกลางที่แตกต่างและช่วยให้ทั้งคู่ได้ค้นพบกับคำตอบบางอย่างในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Couples Therapy สามารถช่วยแนะนำหนทางในการต่อยอดความสัมพันธระยะยาวในการประคองชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคง และช่วยชี้ให้เห็นว่าการกระทำของทั้งคู่ในปัจจุบันนั้นได้ช่วยส่งเสริมชีวิตคู่ให้ไปถึงเป้าหมายในชีวิตอย่างที่ทั้งคู่ตั้งใจไว้หรือไม่

3.  มีพื้นที่ปลอดภัยในการเปิดใจ

บ่อยครั้งการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในความสัมพันธ์ชีวิตคู่ทำให้รู้สึกอึดอัดในการเปิดเผยหรืออยากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป การมาทำ Couples Therapy สามารถช่วยให้ทั้งคู่มีเกราะป้องกัน มีพื้นที่ในการพูดคุยโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์คอยเฝ้าดูแล และคอยสะท้อนมุมมองให้เห็นในจุดที่จำเป็นและจุดที่สำคัญเพื่อการปรับปรุงคุณภาพด้านความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย และเพื่อให้ทั้งคู่ได้มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและชัดเจนมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดความสบายใจต่อการพูดคุยเปิดใจ

4. ช่วยให้เห็นมุมมองของอีกฝ่าย

Couples therapy ช่วยให้คู่ชีวิตได้มองเห็นความคิดและความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย และโดยปกติต่างฝ่ายต่างมองเห็นแต่ความรู้สึกของตนเองจึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจและยอมรับความต้องการของอีกฝ่าย

5.  ช่วยคลี่คลายปัญหาที่ติดค้างใจ

ปัญหาด้านความสัมพันธ์เป็นอุปสรรคในการสร้างขีวิตคู่และชีวิตครอบครัวให้เติบโต ปัญหาด้านความสัมพันธ์ส่งผลต่อการตัดสินใจในทุกเรื่องที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างการวางแผนจะมีลูกหรือซื้อบ้าน ปัญหาความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน เป็นการบั่นทอนการใช้ชีวิตคู่ และขัดขวางการส่งเสริมการพัฒนาสัมพภาพครอบครัวในระยะยาว

6.  ช่วยเพิ่มทักษะและเทคนิคในการแก้ปัญหา

การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่มีคู่ไหนที่สมบรูณ์แบบ แต่การมีบำบัดชีวิตคู่ช่วยให้ทั้งคู่มีทักษะในการหาทางออกที่ถูกต้องให้กับชีวิตคู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต Couples therapy ช่วยให้ทั้งคู่สามารถจัดการกับความตึงเครียด ความโกรธ ความเศร้าเสียใจ หรืออารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามารบกวนจิตใจ การบำบัดคู่ชีวิตสามารถช่วยให้ทั้งคู่มีทักษะในการจัดการกับปัญหาในปัจจุบัน และสามารถปูทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีในอนาคตได้

7. ช่วยให้มีความชัดเจนกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่

การมาบำบัดชีวิตคู่ไม่ใช่ได้รับแค่ทักษะ แนวทางหรือเทคนิคในการจัดการกับปัญหาชีวิตคู่เท่านั้น แต่การบำบัดชีวิตคู่ยังช่วยให้ทั้งคู่ได้สำรวจตัวเอง และเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองต่อมุมมองชีวิตคู่ของตน ช่วยให้เรามีความชัดเจนว่าต้องการสานต่อกับความสัมพันธ์นี้หรือไม่

8.  ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง

หลายคู่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ชีวิตคู่เนื่องจากความเชื่อใจ  อาจถูกทำลายลงจากปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาการนอกใจ ไม่ซื่อสัตย์ ปัญหาความเชื่อมั่น ปัญหาด้านความมั่นคงทางการเงินของครอบครัว หรือ อีกหลายเหตุผลที่ส่งผลต่อความเชื่อใจในการใช้ชีวิตคู่ Couples therapy ช่วยให้ทั้งคู่ได้สำรวจความเป็นจริงและที่มาของปัญหาเพื่อทำการแก้ไขจัดการ และสร้างพื้นที่ในการฟื้นฟูใจและให้อภัย รวมทั้งสร้างความเชื่อใจในความรักให้กลับขึ้นมาใหม่

9.  ช่วยสร้างสายใยความผูกพันของทั้งคู่ให้แนบแน่นขึ้น

Couples therapy ช่วยทำให้ชีวิตคู่ได้กลับมาเชื่อมโยงความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งด้วยกันอีกครั้ง การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไม่ใช่เป็นเพียงแค่ใช้ชีวิตในบ้านเดียวกันแต่การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต้องมีการเชื่อมโยงสายใยความรัก ความห่วงใย ความผูกพันเอื้ออาทร สัมพันธภาพทางกายและใจที่ลึกซึ้งในระยะยาวโดยป้องกันไม่ให้สายใยความรักความปรารถนาดีที่มีต่อกันเสื่อมคลายลง

10.  ช่วยให้การสื่อสารระหว่างกันดีขึ้น

Couples therapy สามารถช่วยทักษะด้านการสื่อสารระหว่างคนทั้งสองให้เป็นไปในทางที่ดีและเป็นเชิงบวกต่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้แล้วทักษะการสื่อสารกับคนอื่นรอบข้างได้รับการพัฒนาไปด้วย ซึ่งมักเป็นประโยชน์ต่อการสื่อสารเพื่อลดความขัดแย้งทั้งกับคนทั้งคู่เอง หรือกับคนรอบข้างที่มีปฎิสัมพันธ์ด้วย เช่น ลูกๆ หรือเพื่อนร่วมงาน ก็ตาม

11.   ช่วยให้แต่ละคนได้ตระหนักถึงสภาวะทางจิตใจของตัวเอง

บ่อยครั้งที่ Couples therapy ช่วยให้ทั้งคู่ค้นพบความไม่สมบรูณ์แบบและข้อบกพร่องในการจัดการปัญหาของแต่ละคนซึ่งมีผลมาจากปมบาดแผลทางใจที่เคยมีในอดีต ปมบาดแผลทางใจ (Trauma) มักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน การบำบัดชีวิตคู่ช่วยเพิ่มทักษะในการจัดและรับมือกับวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อเข้าใจในปัญหาของตนและเกิดการตระหนักรู้ในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะที่จะแก้ไขและช่วยลดความขัดแย้ง

ถึงแม้couples therapy จะเน้นทักษะการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสัมพันธภาพการใช้ชีวิตคู่ แต่มากไปกว่านั้นcouples therapy สามารถช่วยให้ทั้งคู่ค้นพบสภาวะด้านจิตใจของตัวเองที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับอีกฝ่ายหากไม่รีบแก้ไขจัดการ

 

จากการศึกษาพบว่าการทำ couples therapy สามารถเห็นผลได้ดีหลังจากได้รับหลักการแนวทางในการพัฒนาด้านภาวะทางอารมณ์จากผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปคู่สมรสที่เข้ารับบำบัด กว่า 75% ของการทำบำบัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตคู่ได้อย่างมีทักษะและสามารถจัดการด้านอารมณ์ในเชิงบวกได้ดี และกว่า 93% แสดงผลในระดับที่น่าพอใจต่อการลดระดับความขัดแย้งของการใช้ชีวิตคู่ได้ โดยผลสำรวจอ้างอิงจาก American Psychological Association (APA) และ FASTSTATS-Marriage and Divorce

อย่างไรก็ตามหลายคู่มักละเลยต่อการทำบำบัดชีวิตคู่ และมักมาพบผู้เชี่ยวชาญเมื่อปัญหาความสัมพันธ์ได้สะสมบานปลายจนเกินจะจะรับไหวอีกต่อไป และนั้นอาจเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ต้องจบความสัมพันธ์มากกว่าการมองหาวิธีทางในการแก้ไขปรับปรุงความสัมพันธ์ชีวิตคู่ให้ดีขึ้น  การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเป็นเรื่องซับซ้อน การปรับปรุงแก้ไขต้องอาศัยระยะเวลาและความร่วมมือจากทั้งคู่ ดังนั้นการคาดหวังผลลัพธ์ให้ดีขึ้นโดยทันทีทันใดหลังมาบำบัดเพียง1-2ครั้ง อาจเป็นความเข้าใจที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

นอกจากความตั้งใจจริงของทั้งคู่ในการแก้ไขปรับปรุงสัมพันธภาพชีวิตคู่ในระยะยาวเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการประสบผลสำเร็จในการทำบำบัดชีวิตคู่ และทั้งคู่ควรต้องมีความอดทนและวินัย มีความมุ่งมั่นในการมาทำบำบัดจนกว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทั้งคู่ควรให้ความร่วมมือกันและมีการตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสัมพันธภาพชีวิตคู่โดยทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์อย่างเต็มที่เพื่อให้ปัญหาชีวิตคู่สามารถผ่านพ้นและสร้างเสริมชีวิตคู่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไปได้

 

อ้างอิง

https://www.talkspace.com/blog/benefits-of-couple-therapy/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้