1976 จำนวนผู้เข้าชม |
ประสงค์ศักดิ์ เจนกิจจาไพบูลย์ นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษ
ฮีโร่ (HERO) หรือวีรบุรุษที่เสียสละ อุทิศตนเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น คุณผู้อ่านมักจะ คุ้นเคยฮีโร่จากการชมภาพยนตร์หรือดูหนัง ผ่านบทบาทมนุษย์ที่มีการแสดงพลังวิเศษเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าปล่อยพลังสายฟ้าจู่โจม ล่องหนหายตัวเพื่อปฏิบัติภารกิจ หรือปกป้องเวลาต่อสู้ สามารถกระโดดลอยตัวข้ามตึกเพื่อช่วยเหลือผู้คน กอบกู้โลก แก้ไขสถานการณ์วิกฤตและต่อสู้พิทักษ์เหล่าวายร้าย หากในชีวิตจริงพวกเราเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ทว่าคุณผู้อ่านทุกท่านสามารถเป็นฮีโร่ได้นะครับ ไม่ใช่มีเพียงนักสู้ในสนามรบหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละทำงานในสถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 เท่านั้นที่เป็นฮีโร่ ในทางสุขภาพจิตฮีโร่ที่ว่านี้คือ การที่มนุษย์สามารถแสดงบทบาทเป็นผู้ให้ในการสร้างความสุขและลดความทุกข์ครับ
แง่มุมนี้ผู้เขียนอยากเริ่มต้นเรื่องราวฮีโร่ของเราในการให้ความรักและความสุขต่อตนเองก่อนครับ คุณผู้อ่านเคยสังเกตเกี่ยวกับพลังความรักตนเองไหมครับจากเรื่องใกล้ตัว เช่น เวลาอยู่บนเครื่องบิน ก่อนกัปตันจะนำเครื่องทะยานขึ้นฟ้าเพื่อออกเดินทาง พนักงานสายการบินจะอธิบายว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้เราสวมเครื่องชูชีพ หน้ากากออกซิเจนที่ตนเองก่อนจะสวมให้แก่เด็กหรือลูกที่นั่งมาด้วย
เรื่องนี้เป็นกุศโลบายที่จะบอกว่า ฮีโร่ควรจะให้ความรักในการปกป้องตนเอง เพิ่มพลังสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ตัวเราก่อนจะช่วยคนที่เรารักครับ ความรักต่อตนเองนี้สามารถแสดงออกได้ผ่านการบอกชื่นชมตนเอง
การคิดทางบวกด้วยพลังสุขภาพจิตที่เราสร้างขึ้นแต่ละวันโดยการบอกต่อตนเองอยู่เสมอว่าเราเป็นคนดี มีคุณค่า มีความสามารถเพื่อให้เราสามารถมีพลังใจเอาชนะวิกฤตทางใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกอบกู้โรค ต่อสู้ไวรัสวายร้ายในสถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 นี้ หรือแม้แต่มีพลังใจในการเอาชนะอุปสรรคโดยใช้เหตุผล มีความรู้สึกเชื่อมั่นทางบวกเพื่อจัดการปัญหาต่างๆ ในชีวิตที่สำคัญครับ
เมื่อเรามีความรัก ความสุข ความเมตตาต่อตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเติมพลังชีวิต พลังใจทางบวก พวกเราก็พร้อมจะเป็นฮีโร่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เราอาจจะยิ้ม ให้คนรอบข้าง พูดคุยคลายทุกข์กัน เล่าเรื่องสนุกๆสร้างเสียงหัวเราะในที่ทำงาน หรือครอบครัวโดยเฉพาะสถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ที่เราสามารถให้เวลาการสร้างความสุขในครอบครัว
หลายคนมีความจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านจากมาตรการอยู่บ้านปลอดเชื้อแต่ก็ทำให้เวลาอยู่กับคนในครอบครัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสุขภาพจิตในครอบครัว เช่นเดียวกับผู้อ่านที่จำเป็นต้องทำงานในสถานที่ทำงานของตนเอง การสร้างความสุข การเป็นผู้ให้ในการช่วยเหลือระหว่างการทำงานก็สามารถทำได้ครับ นอกจากนี้การส่งเสริมสุขภาพจิตในความเป็นฮีโร่ของเราที่ดีอีกด้านหนึ่งคือ การร่วมมือร่วมใจชวนกันเป็นจิตอาสาที่สุขใจเริ่มต้นที่จะให้ อิ่มใจระหว่างทำในชุมชนที่เราอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยกันทำความสะอาดสถานที่ในชุมชน หรืออาสาช่วยกันบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น และอบอุ่นใจเมื่อเสร็จจากการเป็นจิตอาสา
สำหรับอีกมุมมองหนึ่งคุณผู้อ่านมักจะเห็นฮีโร่ในภาพยนตร์ ที่แสดงบทบาทอย่างสมบูรณ์แบบชนะได้ทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่บาดเจ็บหนักก็สามารถกลับมาหายได้เร็ววันนะครับ แทบจะไม่ค่อยเห็นฉากที่ฮีโร่ร้องไห้ เศร้า เสียใจ หรือมีอารมณ์ลบบ่อยครั้งแต่สำหรับมนุษย์เรานั้นการมีความรู้สึกเครียด กังวล ไม่สบายใจ เศร้า เสียใจหรือโกรธได้เป็นเรื่องธรรมดาในการแสดงออกทางอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งการเป็นฮีโร่ในชีวิตจริงอีกด้านหนึ่ง คือ การจัดการอารมณ์ทางลบของตนเองได้
ดังนั้นการที่เราจัดการอารมณ์ทางลบของเราเองโดยการฝึกรับรู้ตั้งสติด้วยการฝึกหายใจ คลายเครียดอย่างถูกวิธีในสูตร 4-2-6 หรือ 4-2-8 กล่าวคือ หายใจเข้าช้าๆ ท้องหรือพุงพองออก นับ 1-4 ช้าๆกั้นลมหายใจดีๆ เอาไว้ นับ 1-2 ในใจ และหายใจออก ท้องยุบ นับ 1-6 หรือ 1-8 ช้าๆ
ร่วมกับการดูแลอารมณ์เชิงลบ ความเครียดของเรา โดยการสังเกต รับรู้ และยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ทำความเข้าใจอารมณ์และความเครียดที่เกิดขึ้นในใจ
คุณผู้อ่านอาจจะเขียนสิ่งที่คิดมาก เครียด กังวลต่างๆ ลงในกระดาษเพื่อถ่ายอารมณ์ ความรู้สึกทางลบของเราออกจากสมอง และเราก็สามารถนึกทบทวนเขียนหรือนึกเรื่องดีๆ เพิ่มพลัง อึด ฮึด สู้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ กอบกู้โรค ต่อสู้ไวรัสวายร้ายด้วยครับ
หากผู้อ่านมีสุขภาพจิตดีเป็นทั้งผู้ให้ และ ผู้รับต่อตนเองและทำเพื่อประโยชน์สุขแก่คนอื่นรอบข้างก็จะช่วยให้เกิดการปรับตัวภายใต้วิถีชีวิตใหม่ดีขึ้นเรื่อยๆ....ทุกคนเป็น “ฮีโร่” ชีวิตจริงได้ครับ