4959 จำนวนผู้เข้าชม |
Low Self-Esteem ส่งผลเสียอย่างไร ?
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictione
ความไม่มั่นใจบางครั้งอาจเกิดขึ้นกับชีวิตคนเราได้ ความไม่เชื่อมั่นในตัวเองในบางทีเราก็อาจมีขึ้นได้เป็นครั้งคราวถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากอาการขาดความเชื่อมั่น ไม่มีความมั่นใจ หรือ มีความรู้สึกว่าตัวเองหมดความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองจนไม่เห็นคุณค่าในตัวเองนั้นอาจไม่ใช่ภาวะปกติ หากเรารู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ตลอดเวลา มีความคิดลบกับตัวเอง หรือไม่มีความสุขกับชีวิตเลยอาจเป็นสัญญาณเตือนของคนมีระดับ self esteem ต่ำ
หากเรามีความคิดลบกับตัวเอง โทษตัวเองวิจารณ์ตัวเองรุนแรงอยู่ตลอดเวลา หรือไม่มีความคิดด้านบวกเกี่ยวกับตัวเอง รวมทั้งมีความคิดด้อยค่าตัวเองเปรึยบเทียบกับคนอื่น และมักโทษว่าตัวเองผิดอยู่เสมอหากมีเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้
คนมีself-esteem ต่ำมักพึ่งโชคชะตาแทนที่จะพึ่งตัวเอง และที่แย่คือความคิดแบบนี้หากปล่อยไปเรื่อยๆย่อมส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าปล่อยให้ชีวิตอยู่ในจุดที่มีself-esteemต่ำ เพราะนอกจากจะทำให้ชีวิตขาดความสุขแล้วอาจส่งผลร้ายนำสู่ภาวะซึมเศร้าได้ อย่างไรก็ตามการเป็นคนมี self- esteemในระดับปกตินั่นสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้
การพัฒนาself-esteem ทำได้อย่างไร?
Self-esteem นั่นมักเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของคนเรา วิธีคิด ทัศนคติ และเราเลือกเองได้ว่าอยากมี self-esteem ที่ดีหรือไม่ เช่นเดียวกับความสุขในชีวิตของเราก็สามารถเลือกได้ว่าอยากมีความสุขหรือไม่
การมีself-esteem ที่ดีสามารถฝึกฝนได้ด้วยเทคนิคและทักษะที่ช่วยส่งเสริมการมองโลกอย่างมีความสุข ดังนั้นเราจึงควรหมั่นฝึกฝนเรื่องต่อไปนี้เพื่อพัฒนาself- esteem ให้อยู่ในระดับที่ดี และสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างมีความสุขและพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ได้ทุุุกวัน
การเสริมสร้าง self-esteem ให้แข็งแรงมีวิธีปฎิบัติดังนี้
เพราะ ในบางครั้งเด็ก และเยาวชน อาจต้องพบเจอกับความรุนแรง และความเสี่ยงต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคม เด็กและเยาวชนอาจตกเป็นเหยื่อในการกระทำที่รุนแรง หรือ อาจพบเห็นเหตุการณ์การกระทำรุนแรงที่เกิดกับคนใกล้ตัว เพื่อน หรือ คนในครอบครัว
คุณพ่อ- คุณแม่ควรสร้างบรรยากาศในบ้านให้ปราศจากความรุนแรง เพื่อให้เด็กรู้สึกปลอดภัย และควรสร้างเสริม Self-esteem หรือ สร้างความมั่นใจให้กับลูก ให้เขารู้จักเห็นคุณค่าในตัวเอง เคารพนับถือตัวเอง คอยช่วยเขาด้านจิตใจและให้กำลังใจเพื่อให้เขาสามารถต่อสู้กับอุปสรรค์ และเอาตัวเองออกจากปัญหาด้วยความกล้าหาญเมื่อเกิดเหตุการณ์อันตรายขึ้น ช่วยให้เขารู้จักปกป้องตนเองในเวลาที่คับขันและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
คุณพ่อ-คุณแม่จึงควรหมั่นส่งเสริมการสร้างself-esteem ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้
3 เทคนิคในการช่วยสร้าง self-esteem เพื่อเสริมแรงใจให้แข็งแกร่ง
1. รับฟังลูก
หมั่นพูดคุยกับลูกในทุกๆวันและแสดงให้ลูกเห็นว่าชีวิตเขามีคุณค่าเขามีความหมายกับคนในครอบครัวเสมอ
2. มีทัศนคติที่เป็นบวกต่อลูก
ใส่ใจเรื่องต่างๆของลูกโดยเฉพาะชีวิตในโรงเรียน เช่นเรื่องเพื่อน เรื่องการเรียน และควรไปร่วมงานโรงเรียนของลูกทุกครั้งเท่าที่จะทำได้เพราะนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณแคร์เขาแค่ไหน
3. สนับสนุนแรงใจเพื่อให้ลูกทำภาระกิจได้สำเร็จ
คุณพ่อ-คุณแม่ ผู้ปกครอง ควรให้กำลังใจ และเป็นแรงพลักดันให้ลูกในการทำภาระหน้าที่ที่เขามุ่งมั่นตั้งใจทำให้สำเร็จ และควรชื่นชมลูกทุกครั้งที่เขาทำความดี ทำสิ่งที่ถูกต้องหรือให้การช่วยเหลือผู้อื่น
เทคนิคง่ายๆเหล่านี้ทุกท่านสามารถลองนำไปปรับใช้เพื่อสร้างทักษะและช่วยสร้างกำลังใจอันแข็งแกร่งให้ลูกเวลาที่ลูกต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อ-คุณแม่ และผู้ปกครอง ควรอบรมสั่งสอนลูกไม่ให้ไปรังแกผู้อื่น หากไม่ชอบให้ผู้อื่นมารังแกเรา หรือทำสิ่งใดรุกรานผู้อื่นในแบบที่เราไม่ชอบเราก็ไม่ควรไปทำสิ่งนั้นกับใครเช่นกัน และควรสอนให้ลูกรู้เท่าทันภัยร้ายจากยาเสพติดและพิษภัยจากสารมึนเมา สุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ครอบครัวควรสอนลูกในเรื่องการจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกโกรธของตนเองเมื่อถูกทำให้ขัดใจโดยไม่ใช่การตอบโต้ด้วยความรุนแรง
อย่าลืมว่า ความรุนแรงยิ่งทำให้ปัญหาลุกลามปานปลาย ดังนั้นหากคุณพ่อ-คุณแม่ หรือผู้ปกครองหากรู้สึกว่าลูกของตนเองมีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์โกรธจนอาจะต้องขอความช่วยสามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากนักจิตวิทยาได้
การปรึกษานักจิตวิทยาจะช่วยดูแลด้านจิตใจและปรับแนวทางปฎิบัติที่เป็นปัญหาด้านพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรงของลูก หรืออาจช่วยเรื่องสภาพจิตใจลูกให้กลับมาเป็นปกติ ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น และเพื่อลดความรุนแรงในการแก้ปัญหาหรือลดความขัดแย้งลงได้ ปัญหาความเชื่อมั่นและความมั่นใจเห็นคุณค่าในตัวเองของลูก สามารถได้รับการส่งเสริมจากครอบครัวแต่หากปัญหาself-esteem และการเห็นคุณค่าในตัวเองไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองควรมาพบนัจิตวืทยาผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาและได้รับการสนับสนุนหรือช่วยเหลือเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างเสริมเรื่องself esteem หรือความเห็นคุณค่าในตัวเองได้อย่างถูกแนวทาง
อ้างอิง:
https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/healthyliving/self-esteem#characteristics-of-low-selfesteem
https://www.bettermindthailand.com/
https://www.facebook.com/BettermindThailand