8 วิธีซ่อมแซมชีวิตคู่เมื่อความสัมพันธ์มาถึงทางตัน

10854 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 8 วิธีซ่อมแซมชีวิตคู่เมื่อความสัมพันธ์มาถึงทางตัน

8 วิธีซ่อมแซมชีวิตคู่
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงทางตัน
 
 
 
 
 
 
 
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D)
Dr. Marid Kaewchinda 
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นักจิตบำบัด EMDR Psychotherapy/ Brainspotting Psychotherapy Practitioner

 
การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายและมักเป็นปัญหาที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถสัมผัสได้หากความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มมาถึงจุดที่ต่ำสุด
และหากชีวิตคู่ของเรามาถึงทางตันก็มักจะส่งผลทำให้เราหมดแรงพลังงานในการดำเนินชีวิต มีทัศนคติมุมมองต่อชีวิตคู่ไปในทางลบ รวมทั้งยังสร้างผลกระทบด้านความเครียดให้เราบ่อยครั้ง และนำสู่การทะเลาะถกเถียงกันแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ได้ซะที
 


หากความสัมพันธ์ของเรามาถึงทางตันจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอย่าเพิ่มหมดหวัง หรือตัดสินใจแยกย้าย เพราะตราบใดที่ยังมีความรักความผูกพันธ์และเยื่อใยต่อกันอยู่การซ่อมแซมความสัมพันธ์และสร้างความสัมพันธภาพที่ดีขึ้นมาใหม่ย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

โดยคำแนะนำเหล่านี้อาจเป็นเทคนิควิธีที่ทำให้คู่ชีวิตพอมีทางออกเวลามาถึงทางตันได้
 
 
 

8 วิธีในการรักษาชีวิตคู่เมื่อมาถึงทางตัน

1. อย่าด่วนตัดสินใจ

หลายคู่สามารถผ่านวิกฤตของความสัมพันธ์ที่มาถึงทางตันได้ด้วยความพยายามของทั้งคู่ในการลองปรับตัว แก้ไขปัญหาของชีวิตคู่ด้วยความตั้งใจใส่ใจทุ่มเทก่อน เช่น การเลิกเหล้า ปัญหาเรื่องเซ็กส์ การเลิกทำร้ายร่างกายและทำร้ายกันด้วยคำพูด หรือพยายามแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุก่อนที่จะทำการตัดสินใจอย่างอื่นต่อไป

2. พูดความจริง

ในความสัมพันธ์ที่มีการปกปิด ไม่สามารถเปิดเผยความจริงเรื่องใดก็ตามให้กับอีกฝ่ายได้มักจะนำไปสู่ปัญหาชีวิตคู่ในระยะยาว อย่างไรก็ตามปัญหานี้เราไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆและหวังว่าสิ่งที่เป็นกังวลหรือที่เป็นปัญหาจะดีขึ้นเองได้แต่ต้องเปิดใจคุยกันโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกคุกคาม

3.  มองหาความช่วยเหลือจากผู้ชี่ยวชาญ

เป็นเรื่องสำคัญมากที่ปัญหาชีวิตคู่ควรได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่ และมีมุมมองในการเข้าใจปัญหาจากคนภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อช่วยให้ทั้งคู่เห็นถึงปัญหาและช่วยเสริมทักษะให้เหมาะกับชีวิตคู่ของเราได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือแต่การได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญแม้เพียงได้รับทักษะแค่คนเดียวก็สามารถรักษาประคองชีวิตคู่ไว้ได้ในระดับหนึ่ง

4. ถามตัวเองว่ามีส่วนในการสร้างปัญหาหรือไม่

การโทษกันไปมามักเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในปัญหาชีวิตคู่ และมักเป็นมุมมองทัศนคติที่เข้าข้างตัวเองเวลาที่รู้สึกไม่พอใจอีกฝ่าย หากเรามองอย่างเข้าใจ จะพบว่าเราเองก็อาจมีส่วนสร้างให้เกิดปัญหาที่วนเวียนอยู่เรื่อยไปนี้ หรือเราเองก็มีส่วนพลัดดันให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

5. โฟกัสไปที่การเยียวยาตัวเองก่อน

เรามักจะมองว่าการมีชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุขนั้นเกิดจากการที่คู่ชีวิตของเราไม่นำความสุขและความพึงพอใจมาให้เรา แต่เราลืมมองว่าทำไมอีกฝ่ายต้องมารับผิดชอบในความสุขของเรา เราควรรับผิดชอบในการมีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง การที่เราไม่พบความสุขใจ นั่นอาจเป็นเพราะเรามีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจและ เป็นสิ่งที่คอยรบกวนจิตใจเราอยู่ตลอดเวลา และมันมักจะคอยกระตุ้นให้เราเกิดความหงิดหงุดและทนไม่ได้อยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เป็นปมติดอยู่ในใจของอาจสะสมมานานจนเราไม่รู้ตัวและปล่อยปะละเลยโดยไม่ได้รับการบำบัดแก้ไขสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นการเยียวยาตัวเองให้กลับมาสู่ภาวะปกติก่อนจะช่วยให้การใช้ชีวิตคู่มีพัฒนาการและราบลื่นมากยิ่งขึ้น

6. รับรู้ในความเจ็บปวดของอีกฝ่าย

อย่ามองแต่ด้านเดียว บางครั้งการใช้อารมณ์เอาชนะอีกฝ่ายก็อาจทำให้ชีวิตคู่ของเราเกิดรอยร้าวได้ การเอาชนะย่อมมีอีกฝ่ายพ่ายแพ้ และผู้แพ้ก็ย่อมต้องเกิดความเจ็บปวด การใช้ชีวิตคู่จึงไม่ควรมีแต่การเอาชนะกัน แต่ควรแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า ทำตัวให้เป็นทีมเดียวกันเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน

7. หมั่นสร้างประสบการณ์ด้านบวก

การเผชิญวิกฤตหรือการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคในชีวิต มักสร้างทัศนคติด้านลบกับชีวิตคู่ให้เกิดขึ้นเสมอ อย่างไรก็ตามในวิกฤตย่อมสร้างโอกาส วิกฤตในชีวิตคู่ย่อมให้โอกาสในการสร้างสัมพันธภาพของชีวิตคู่ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นควรมีวิธีพูดคุยปรึกษากันเพื่อสะท้อนมุมมองในวิกฤตที่เกิดขึ้นและเรียนรู้อะไรบางอย่างเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงสัมพันธภาพให้ยั่งยืนและมั่นคง พยายามมองบวกไปด้วยกันและหมั่นย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขด้วยกันเสมอๆ

8. พูดขอบคุณบ่อยๆ

เมื่ออีกฝ่ายทำสิ่งดีๆให้ก็อย่าทำนิ่งเฉยควรแสดงความซาบซึ้ง และควรทำให้ได้ในทุกๆวันเพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นชื่นชม มีกำลังใจสนับสนุนให้ทั้งคู่ได้มีสัมพันธภาพที่ดี หมั่นปรับปรุงและพัฒนาความเข้าใจทัศนคติที่ดีต่อกัน ไม่ควรมองข้ามความดีเล็กๆน้อยๆของอีกฝ่าย แต่ควรชื่นชมและขอบคุณทุกสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟให้หรือการไปรับส่งลูกที่โรงเรียน เป็นต้น
 


จำไว้เสมอว่าเทคนิคการซ่อมแซมชีวิตคู่นั้นจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้าวไปข้างหน้าได้สำเร็จ ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายยอมเปิดใจ อุทิศทุ่มเทเวลา ยอมปรับความเข้าใจ มีความห่วงใย มีใจเมตตา มีใจกว้างต่อกัน ปัญหาอุปสรรค และวิกฤตในชีวิตคู่ที่กำลังเผชิญอยู่ก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้ และจะยิ่งช่วยทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ได้พัฒนาอย่างแน่นแฟ้นและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม 

 

อ้างอิง
https://www.mindbodygreen.com/articles/rebuild-when-your-relationship-falling-apart
https://beirresistible.com

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้