532 จำนวนผู้เข้าชม |
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา
Marid Kaewchinda (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นักจิตบำบัด EMDR Psychotherapy/ Brainspotting Psychotherapy
5 สัญญาณ ของปมบาดแผลทางใจ (Trauma) ที่คุณเข้าใจว่าเป็นบุคลิกภาพโดยกำเนิด
1. เวลามีคนใจดีด้วยคุณจะรู้สึกซาบซึ้งไม่หยุด นั่นอาจเป็นเพราะคุณมีปมในเรื่องที่ไม่มีใครเคยใจดีกับคุณมาก่อนเลย
2. คุณมักรู้สึกผิด และขอโทษตลอดเวลา แม้เรื่องที่ไร้สาระ นั่นอาจเป็นเพราะคุณอาจมีปมในใจในเรื่องที่เคยถูกกล่าวโทษว่าเป็นคนผิดอยู่ตลอดเวลา แม้ไม่ใช่ความผิดของคุณก็ตาม
3. คุณลืมเรื่องราวในวัยเด็ก นั่นอาจเป็นเพราะคุณมีปมในวัยเด็กที่ต้องการลืมและสมองทำหน้าที่เป็นกลไกกดความทรงจำนั้นไปจากความคิดคุณ
4. คุณมักปฎิเสธการชื่นชนจากคนอื่น นั่นอาจไม่ใช่เป็นเพราะคุณมีความถ่อมตน แต่อาจเป็นเพราะคุณมีปมในใจที่ไม่เชื่อว่าตัวคุณเองทำมันได้
5. คุณไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร และยากสำหรับคุณที่จะทำอย่างนั้น นั่นอาจเป็นเพราะปมที่คุณไม่สามารถไว้ใจใคร หรือพึ่งพาใครได้เลยในอดีต คุณจึงลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวคุณเอง
อย่างไรก็ตามไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการแก้ไขปมบาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการจัดการ (unsolved trauma) คุณสามารถนำปมค้างใจเหล่านั้นสู่ขบวนการบำบัดด้านจิตใจได้ทุกเมื่อ เพื่อให้ผู้เข้ารับบำบัดได้กลับมามีชีวิตที่สดใส มั่นใจและมีความสุขอีกครั้ง หลังได้รับการบำบัดปมค้างใจที่สะสมมานานออกไปแล้ว คนส่วนใหญ่จะมีความรู้ความเข้าใจต่อในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้น และมีกำลังใจที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ปมบาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา (Unsolved Trauma) ส่งผลกับเราอย่างไร?
ปมบาดแผลที่ไม่ได้รับการเยียวยา มักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพด้านสุขภาพร่างกาย สัมพันธภาพ ความมั่นคงเข้มแข็งทางจิตใจเวลาที่ต้องต่อสู้ฝ่าฟันความยากลำบากและอุปสรรคในชีวิต ผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและการสร้างผลงาน
บาดแผลทางใจที่ไม่ได้รับการเยียวยาเป็นความเจ็บป่วยที่มองไม่เห็น และทำให้เราอ่อนแอ จากการถูกรบกวนและต้องต่อสู้กับความทรงจำด้านลบ บาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาให้หายดี เปรียบเสมือนความเจ็บป่วยที่ภายนอกอาจดูปกติ แต่ภายในเป็นการต่อสู้กับอารมณ์ ความเจ็บป่วย ต่อสู่กับอดีตที่คอยหลอกหลอน และเป็นเรื่องยากต่อการใช้ชีวิตให้มีความสงบและมีความสุข
บาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาส่งผลให้อารมณ์ความรู้สึกถูกกระตุ้น และอ่อนไหวได้ง่าย ซึ่งกระทบต่อการมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น อาจมีปัญหาด้านความไว้ใจเชื่อใจต่อคนที่รัก คนที่สนิท เพื่อนฝูง และสมาชิกครอบครัว
สาเหตุของ Unsolved Trauma อาจเป็นประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่สร้างปมบาดแผลทางใจ และมันอาจถูกเก็บหรือฝังอยู่ภายในใจ แต่มันได้ถูกจัดการให้หายไป และเมื่อเวลาผ่านไปมันก็เติบโตขึ้นภายในใจ
Unsolved Trauma and EMDR Therapy
บาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา มักมีอาการแสดงออกอย่างไร?
ในทันทีที่เจอเหตุการณ์หรือประสบการณ์อันเลวร้ายที่สร้างให้เกิดบาดแผลทางใจ ปฎิกิริยาที่ตอบสนองในทันทีมักจะเกิดความเศร้าเสียใจ สับสน วิตกกังวล ตัวชา ร่างกายปั่นป่วน เหนื่อยหมดแรง ช็อค ไม่อยากเจอใครอยากหลีกหนีไปให้ไกลจากสถานการณ์ตรงนั้น
แต่เมื่อหลังเหตุการณ์สงบภาวะทางกายเช้าสู่ปกติก็จะเกิดปฎิกิริยาตอบสนองที่ตามมาหรือที่เรียกว่า Delayed responseต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่เป็นผลทำให้เกิดปมบาดแผลทางใจ
อาการอาจเป็นดังนี้ เช่น เปราะบาง อ่อนไหวง่ายและเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน มีปัญหาด้านการนอนหลับ นอนไม่หลับ หลับยาก ฝันร้าย กลัวกังวลถึงสิ่งเลวร้ายนั้นจะเกิดขึ้นอีก นึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายนั้นเสมอ เห็นภาพเก่าฝังใจขึ้นมาในหัว มีภาวะซึมเศร้า มีอาการหลีกเลี่ยงไม่กล้าเผชิญหน้า มีความรู้สึก มีอารมณ์ไม่ปกติหากมีสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้องหรือทำให้นึกถึงกับสถานการณ์เลวร้ายนั้นอีก
จิตบำบัด EMDR กับการรักษา Unsolved Trauma
Eye Movement Desensitization and Reprocessing (EMDR) Therapy เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาUnsolved Trauma ที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศตะวันตกในวงการจิตวิทยา การแพทย์ ในโรงพยาบาล และคลินิก เนื่องด้วย EMDR Therapy เป็นการรักษาที่ได้ผลอย่างน่าทึ่งและ มีการพิสูจน์หลักฐานในเชิงวิทยาศาสตร์
ข้อมูลที่เปิดเผยถึงประสิทธิภาพทางการแพทย์ที่รักษาด้วยจิตบำบัด EMDR มี 2 ลักษณะด้วยกัน
1. จิตบำบัด EMDR ทำงานลึกถึงระบบประสาทและระบบควบคุมการทำงานของสมอง (Nervous System Mastery)
จิตบำบัดแบบ EMDR ช่วยให้เราสามารถกลับมามีภาวะที่สามารถควบคุมการสั่งงานของประสาทและสมองได้ การบำบัดช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานด้านสมองและช่วยลดตัวกระตุ้นของสมองที่เกิดจากความเครียด เป็นการทำงานลงลึกที่ระบบสั่งการและการรับรู้การควบคุมที่เป็นการทำงานที่สัมพันธ์กับระบบประสาทและสมองทั้งหมด และฝึกเทคนิคการกระตุ้นการทำงานของสมองสองด้าน
2. จิตบำบัด EMDR เข้าฟื้นฟูและรักษาอาการทางอารมณ์ถึงต้นตอ
จิตบำบัด EMDR ทำงานลงลึก และเน้นไปที่ความทรงจำด้านลบ ที่ทำส่งผลต่ออารมณ์ด้านลบ การรับรู้และการแสดงออกทางกาย เป็นการแก้ปมที่เกิดจากต้นเหตุ ส่งผลต่อการลดระดับความเครียดและกดดัน ผลลัพธ์การทำบำบัดด้วยจิตบำบัดแบบ EMDR จะเห็นผลลัพธ์ที่ไวและมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพของจิตบำบัดแบบ EMDR เคยรักษาอาการใดมาแล้วบ้าง
1. ปมบาดแผลทางใจที่ซับซ้อน (Complex PTSD)
EMDR Therapy เป็นการทำงานกับปมบาดแผล ที่มุ่งเน้นเพื่อการช่วยปลดปล่อยความเจ็บปวด ที่ยังติดค้างและโยงใยเป็นปมค้างใจตั้งแต่อดีต EMDR Therapy ช่วยแก้ปมที่ละจุด ทำให้จิตใจได้รับการแก้ไขฟื้นฟูและกลับสู่ภาวะปกติและปลอดภัย
2. อาการวิตกกังวล (Anxiety)
EMDR Therapy ช่วยให้ข้างในจิตใจได้เจอความสงบ มีอารมณ์ที่มั่นคง ในการเช้าช่วยจัดการภาวะ วิตกจริต วิตกกังวล ต่างๆ
3. โรคตื่นตระหนก (Panic attacks)
EMDR Therapy มีผลพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถช่วยให้ผู้รับบำบัด กลับมาควบคุมการใช้ชีวิตและควบคุมสติและอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้นและไม่กลับมามีอาการpanic attacks อีก
4. อาการหวาดกลัวบางอย่าง (Phobias)
EMDR therapy ช่วยให้ผู้รับบำบัดเข้าใจสาเหตุที่ทำให้อ่อนแอจากภาวะกลัวบางอย่าง และช่วยให้จัดการกับภาวะอาการอ่อนแอนั้น และจัดการแยกความกลัวเป็นส่วนๆจนเกิดความเข้าใจในสาเหตุและปัญหารวมทั้งปูทางในการใช้ชีวิตแบบไม่หวาดกลัวอีกต่อไป
5. โรคกลัวสังคม (Social anxiety)
ภาวะนี้ทำให้ไม่สามารถเติบโตในหน้าที่การงาน ไม่มีความมั่นใจเวลาเข้าสังคม EMDR Therapy สามารถช่วยนากรพัฒนาทักษะด้านสังคมให้เกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจของแต่ละบุคคล รวมทั้งสามารถช่วยส่งเสริมและแก้ไขทักษะด้านสัมพันธภาพกับผู้อื่นด้วย
6. โรคซึมเศร้า (Depression)
บ่อยครั้งที่ภาวะซึมเศร้ามักมีสาเหตุหรือความเชื่อมโยงกับปมบาดแผลทางใจที่ไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา Unsolved trauma สามารถจัดการได้ด้วยจิตบำบัด EMDR โดยการเข้าไปทำงานตรงถึงต้นตอ และประสบการณ์อันไม่พึงประสงค์ของแต่ละคนเพื่อช่วยลดอาการที่เกิดจากภาวะปมบาดแผลทางใจ
7. โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder)
EMDR Therapy ช่วยพัฒนาการจัดการตัวเองและลดผลกระทบจากโรคOCD ด้วยการตัดวงจรพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆหรือความคิดที่เป็นรูปแบบpattern ที่ซ้ำๆย้ำๆเดิมๆ และช่วยให้เกิดการจัดการพฤติกรรมและความคิดในรูปแบบใหม่
8. ผลกระทบจากการถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ (Physical and emotional abuses)
ผู้รอดชีวิตจากการถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีภาวะที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการทำบำบัดเยียวยาด้านจิตใจจากการทำจิตบำบัดEMDR
9. อาการเจ็บป่วยทางกาย (Somatic disorder and pain syndromes)
ลักษณะความเจ็บป่วยทางร่างกายที่หาสาเหตุไม่ได้ ส่วนใหญ่มักมีต้นตอจากภาวะทางจิตใจ และอารมณ์อยู่พื้นฐานมาก่อน และเมื่อได้รับการบำบัดด้วย EMDR therapy สามารถช่วยลดอาการความผิดปกติด้านร่างกายและอารมณ์ได้
10. ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านจิตใจ
EMDR therapy ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดปมบาดแผลทางใจ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจ ให้ค้นพบตัวเองอย่างท่องแท้ ดำรงอยู่ด้วยกับตัวเองอย่างมั่นคงปลอดภัย ภายในใจแข็งแกร่ง มีจิตวิญญาณที่เติบโตแข็งแรงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากการทำงานของระบบประสาทสมองและความคิดที่เป็นรูปแบบที่ดีขึ้น
Unsolved Trauma หรือปมค้างใจที่ไม่ได้รับการเยียวยารักษามักส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเวลาต่อมา ภาวะที่เกิดขึ้นทางกายและสภาวะทางจิตใจที่ไม่ปกติมักส่งผลทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ดังนั้นหากมีภาวะประสบการณ์เกี่ยวกับ Trauma หรือปมค้างใจไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ การทำงานของสมองและการควบคุมทางกายนั้นมักสัมพันธ์กันเสมอ ผลกระทบจาก Trauma ทำให้เราใช้ชีวิตที่ทุกข์ทรมาน แต่ยังถือว่าเราอยู่ในยุคที่โชคดีมากที่มีการค้นพบเครื่องมือในการรักษาTrauma รูปแบบใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง EMDR Therapy
อ้างอิง
https://www.verywellmind.com/unresolved-trauma-symptoms-causes-diagnosis-and-treatment-6753365#:~:text=Symptoms%20of%20Unresolved%20Trauma&text=Lack%20of%20trust%20and%20difficulty,and%20feelings%20of%20worthlessness9