321 จำนวนผู้เข้าชม |
จิตบำบัด EMDR มีประสิทธิภาพอย่างไรในการรักษาชีวิตคู่?
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner
EMDR psychotherapy สามารถช่วยรักษาความสัมพันธภาพจากประสบการณ์อันเลวร้ายในชีวิตคู่ได้อย่างไร?
จากผลการวิจัยของมหาวิทยา King ‘s College Londonประเทศอังกฤษ พบว่าคนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่กว่า 31% เคยมีประสบการณ์ปมบาดแผลทางใจ (trauma) ก่อนอายุ 18 ปี ส่วนใหญ่ภาวะปมบาดแผลทางใจมักเกิดจากประสบการณ์ในครอบครัวและการเลี้ยงดูในวัยเด็ก
บ่อยครั้งที่ปมค้างใจ (trauma) ส่งผลต่อพฤติกรรม และรบกวนการใช้ชีวิต โดยเฉพาะผลกระทบต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น เพื่อนร่วมงาน คนรัก คนสนิทหรือ คนในครอบครัว
พฤติกรรมที่แสดงออก อาจมาในรูปแบบการแตกต่างกัน เช่น การสื่อสารที่มีปัญหา ไม่เข้าใจเข้าใจคนอื่นและตัวเอง ทัศนคติด้านความไว้ใจ และความเชื่อใจเป็นลบ ความเป็นมิตรอยู่ในระดับต่ำ หรือการเชื่อมโยงด้านอารมณ์ความรู้สึกกับผู้อื่นอยู่ในระดับน่าเป็นห่วง
และส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะปมค้างใจ (trauma) ว่าทำให้เจ็บปวดและรบกวนการใช้ชีวิตที่มีความสุขของตัวเองรวมทั้งปมบาดแผลทางใจยังส่งผลต่อสัมพันธภาพและปฎิสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นอีกด้วยดังนั้นคู่ชีวิต หรือคู่สมรสจึงไม่สมควรละเลยปมบาดแผลทางจิตใจที่มีและควรรีบมารับการแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาโดยเร่งด่วน
บ่อยครั้งที่เราอาจสังเกตคู่สมรส หรืออาจมีประสบการณ์ตรงจากคู่ตัวเองว่า ทำไมสามีหรือภรรยาของเราเวลาทำผิด จึงไม่ยอมรับผิดในการกระทำของตัวเอง ปัจจัยด้านปมค้างใจอาจเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องเหล่านี้ และนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของปมค้างใจที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
EMDR Psychotherapy สามารถบำบัดความสัมพันธ์คู่สมรสได้อย่างไร?
ในการบำบัดสัมพันธภาพคู่ชีวิต EMDR psychotherapy จะช่วยเยียวยาด้านอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นกันและกันของทั้งคู่เพื่อช่วยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และจัดการปมค้างใจให้ออกไปโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำจิตบำบัดแบบ EMDR คอยให้คำแนะนำด้านสัมพันธภาพ และการจัดการกับสัมพันธภาพชีวิตคู่ที่มีปัญหาอย่างถูกวิธีโดยคอยให้เทคนิคในการแก้ปัญหาชีวิตคู่อย่างถาวร
จิตบำบัดแบบ EMDR คืออะไร?
เป้าหมายของการทำจิตบำบัดแบบ EMDR คือ การช่วยเหลือด้านจิตใจและเยียวยาจิตใจจากประสบการณ์อันเลวร้ายในอดีตให้คนแต่ละคน
การทำบำบัดEMDR จะนำการกระตุ้นสมองสองด้านมาใช้ ในรูปแบบของการเคาะจังหวะ (tapping) สลับซ้าย-ขวา หรือการเคลื่อนไหวสายตา ในขณะที่สมองกำลังทำงานกับความทรงจำด้านลบ
ให้ร่างกายได้ปลดปล่อยความเครียดที่ติดค้างในสมอง รวมทั้งความทรงจำและทัศนคติด้านลบที่คอยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์แปรปรวนอยู่บ่อยๆ ได้เกิดการไหลเวียน และทำงานได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยลดการถูกกระตุ้นทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
ดร.ฟรานซิส แชปพิโร ผู้คิดค้นจิตบำบัดแบบ EMDR เชื่อว่าเมื่อปมค้างใจ (Trauma) ที่ยังติดค้างอยู่ในสมองนั้นจะทำการรบกวนทางด้านอารมณ์ และจิตใจ ทำให้เกิดอารมณ์ที่แปรปรวน และมีปัญหาด้านพฤติกรรม ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ผิดปกติไปจากเดิมและมักเป็นพฤติกรรมด้านลบ
ปมค้างใจ หรือ (trauma) ทำให้สมองและร่างกายถูกรบกวนด้วยอาการต่างๆ ได้แก่ วิตกกังวล อาการซึมเศร้า ภาพความทรงจำเก่าย้อนกลับมา ฝันร้าย นอนไม่หลับ เป็นต้น
จิตบำบัดแบบ EMDR เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดระดับอาการ หรือภาวะที่เกิดจากปมค้างใจ (trauma) ให้อยู่ในระดับปกติที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปราศจากการถูกรบกวนด้านจิตใจจากความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ
โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน EMDR อาจช่วยเราให้ได้รับการทำบำบัดด้านจิตใจด้วยการนำผู้เข้ารับบำบัดเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูด้านจิตใจด้วยจิตบำบัดแบบ EMDR และอาจมีจิตบำบัดเทคนิควิธีอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาเข้าร่วมด้วย
EMDR Psychotherapy ช่วยปรับปรุงด้านความสัมพันธภาพใน ชีวิตคู่ได้อย่างไร?
ปมค้างใจหรือปมบาดแผลทางใจ (trauma) หากยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ปกติ อาจส่งผลกระทบมากมายต่อความสัมพันธ์ชีวิตคู่และการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ปมบาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้จัดการแก้ไข (unsolved trauma) ส่งผลต่อทัศนคติความเชื่อใจ ความไว้ใจและพฤติกรรมความหวาดระแวงของอีกฝ่าย และทำให้เกิดวงจรแห่งความขัดแย้ง จะสังเกตได้ว่าเวลาถกเถียงหรือมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันก็มักจะมีพฤติกรรมหลายคู่มักขุดคุ้ยเรื่องอดีต รวมทั้งมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการรักษาสัมพันธภาพให้อยู่ในระดับที่แข็งแรงของการใช้ชีวิตคู่เป็นอย่างมาก และบ่อยครั้งการถกเถียงกันในเรื่องเล็กน้อยมักนำไปสู่ปัญหาใหญ่โตได้ในช่วงเวลานิดเดียวก็เนื่องจากปมค้างใจของแต่ละคนยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ปกตินั่นเอง
ปมค้างใจ(trauma) ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและพฤติกรรมของเรา คนที่มีปมบาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมักจะมีพฤติกรรมโกรธง่าย ล้มเลิกหรือถอนตัวจากความตั้งใจได้ง่ายๆ ในบางคนอาจมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยง หลบเลี่ยงบางสิ่งบางอย่าง พฤติกรรมเหล่านี้หากไม่ได้รับการรักษาให้เป็นปกติก็จะเป็นเรื่องยากต่อการใช้ชีวิตคู่ และเป็นเรื่องท้าทายสำหรับอีกฝ่ายที่จะความเข้าใจในปัญหาของคู่ชีวิตที่มีอยู่ได้ เมื่อเกิดความไม่เข้าใจก็เป็นการยากที่จะให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลืออีกฝ่ายได้
หากมีสัญญาณต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้น ควรมาพบผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ชีวิตคู่ และนำประเด็นในเรื่องที่เป็นวิตกกังวลมาปรึกษาบำบัดเพื่อช่วยแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาด้านความสัมพันธ์ชีวิตคู่ให้ดีขึ้นต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ชีวิตคู่จะช่วยให้เรามองเห็นรากลึกต้นตอของปัญหาเพื่อช่วยให้ทั้งคู่จัดการกับปัญหาได้ถูกจุดและพัฒนาวิธีเทคนิคในการใช้ชีวิตคู่ได้อย่างมีความสุข
ปัญหาสัมพันธภาพของชีวิตคู่อย่ารอจนสายเกินแก้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ชีวิตคู่สามารถช่วยรักษาปัญหาชีวิตคู่ได้ นอกจากนี้ EMDR Psychotherapy สามารถช่วยรักษาสัมพันธภาพชีวิตคู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
EMDR Psychotherapy มีบทบาทในการช่วยรักษาชีวิตคู่ได้อย่างไร?
1. EMDR Psychotherapy ช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจ
หากทั้งคู่เคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายจากการเลี้ยงดู EMDR psychotherapy สามารถช่วยรักษาบาดแผลทางใจโดยการเข้าจัดการแก้ไขกับทัศนคติที่เป็นปัญหา ความคิดลบที่ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกที่เป็นปัญหา ที่มักส่งผลกระทบต่อการสื่อสารทำให้เกิดปัญหาและลามไปถึงการยับยั้งการพัฒนาสัมพันธภาพที่มั่นคงและยังยืนของทั้งคู่
2. แก้ปัญหาด้านสัมพันธภาพที่เกิดจากบาดแผลทางใจของทั้งคู่
บ่อยครั้งบาดแผลทางใจในความสัมพันธชีวิตคู่มักมีปัญหามาจาก การถูกนอกใจ ไม่ซื่อสัตย์ในความรัก ไม่รักษาคำมั่นสัญญา หรือบาดแผลทางใจจากการสูญเสีย ประสบการณ์เหล่านี้มักสร้างปมบาดแผลฝังลึกทางใจที่ส่งผลต่อความเชื่อใจ และความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยด้านอารมณ์ให้กับชีวิตคู่
จิตบำบัดแบบ EMDR จะช่วยให้ทั้งคู่ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดเพื่อเยียวยาความสัมพันธ์ในเรื่องการให้อภัย สร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และปูรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นให้กับสัมพันธภาพครอบครัว
3. เสริมสร้างการเชื่อมโยงด้านจิตใจ
EMDR psychotherapy ช่วยให้คู่ชีวิตได้สำรวจค้นหาสิ่งที่ซ่อนไว้ภายใต้อารมณ์และภาวะทางจิตใจ รวมทั้งได้ทำงานกับภาวะที่ท้าทายด้านอารมณ์ของตัวเอง โดยให้อีกฝ่ายได้รับรู้และสัมผัสถึงความเข้าใจในระดับที่ลึกลงไปเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเกิดความเห็นอกเห็นใจในอีกฝ่ายโดยผ่านการทำงานกับสมองทั้งสองด้าน
4. EMDR psychotherapy ช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติด้านลบ
ความเชื่อที่เป็นลบต่อคู่ชีวิตหรือมีทัศนคติที่เป็นลบกับอีกฝ่าย มักทำให้เกิดการสร้างกำแพงกั้นขวางสิ่งดีๆ ที่จะเติมเต็มชีวิตครอบครัว EMDR psychotherapy สามารถทำงานกับประสบการณ์ด้านบวก เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้าน self esteemความเชื่อมั่นในตัวเอง ในการปรับปรุงด้านการรับรู้ในเชิงบวกเพื่อเชื่อมโยงการรักษาสัมพันธภาพให้เข้าสู่ระดับที่ลึกซึ้งต่อการพัฒนาทักษะด้านสัมพันธภาพให้ดีขึ้น
5. EMDR ช่วยสร้างความผูกพันธ์ให้แข็งแกร่ง
EMDR psychotherapy เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพด้านการจัดการกับปัญหาการเชื่อมโยงด้านจิตใจและความผูกพันธ์ที่มีปัญหา
กระบวนการจิตบำบัดแบบ EMDR ช่วยให้ทั้งคู่สร้างสัมพันธภาพที่ปลอดภัยมั่นคงและเติมเต็มการเชื่อมโยงด้านจิตใจให้สมบรูณ์ เพื่อศักยภาพทางจิตใจในเรื่องความผูกพัน และช่วยรักษาบาดแผลจากการถูกทอดทิ้งให้กลับมารู้สึกมั่นคงในจิตใจได้
อย่างไรก็ตามความสำเร็จในการบำบัดชีวิตคู่นั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากคู่ชีวิตทั้งคู่เป็นสำคัญ ไม่เช่นนั้นแล้วการทำบำบัดชีวิตคู่อาจมีเงื่อนไขแล้วข้อจำกัดที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการบรรลุความสำเร็จมากมาย ทั้งคู่ควรให้ความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการทำบำบัดชีวิตคู่ด้วยกัน
อย่าปล่อยให้บาดแผลทางใจส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ชีวิตคู่ที่มีในชีวิต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เพื่อได้ชีวิตคู่ที่มีความสุขกลับคืนมา
อ้างอิง
https://www.traceybrittain.org/post/how-emdr-therapy-can-help-couples-overcome-adversity#:~:text=If%20one%20or%20both%20partners,communication%20difficulties%2C%20and%20relationship%20conflicts.