15569 จำนวนผู้เข้าชม |
การบำบัดปัญหาชีวิตคู่
จำเป็นแค่ไหน?
ดร.มฤษฎ์ แก้วจินดา (Ph.D.)
นักจิตวิทยาการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
EMDR Psychotherapy Supervisor and Brainspotting Psychotherapy Practictioner
ปัญหาการแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การมองหาความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาครอบครัวในปัจจุบันที่โลกและสังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตคู่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการกับปัญหาการปรับตัว พฤติกรรมในการใช้ชีวิตร่วมกัน หรือพื้นฐานด้านครอบครัว ด้านการควบคุมอารมณ์ของแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความสัมพันธในช่วงรอยต่อที่เปลี่ยนจากการเคยใช้ชีวิตคนเดียวหรืออยู่กับครอบครัวตัวเองมาเป็นการเริ่มสร้างชีวิตครอบครัวใหม่กับคู่สมรส การสื่อสารที่ชัดเจนและ แสดงออกอย่างจริงใจจะช่วยสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งในการสร้างชีวิตคู่ให้เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการทำบำบัดคู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งคู่สมรสที่ต้องการพัฒนาด้านความสัมพันธ์ชีวิตคู่อย่างแท้จริงและความรู้แนวทางที่เหมาะสมจากนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ
ถึงกระนั้นก็ตามสัญญาณต่อไปนี้อาจเป็นการบ่งบอกให้รู้ได้ในเบื้องต้นว่าการมาพบนักจิตวิทยาในการจัดการปัญหาชีวิตคู่นั้นอาจไม่เป็นผลด้วยประเด็นอุปสรรคดังต่อไปนี้
สัญญาณที่บ่งบอกว่าการบำบัดคู่สมรสจะไม่ได้ผลคือ
สัญญาณเหล่านี้เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อนักจิตวิทยาคู่สมรสในการช่วยรักษาหรือส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ให้คู่สมรส เนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์หรือความไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขปรับปรุงสัมพันธภาพที่มีมาอย่างจริงจัง ไม่สละเวลาแรงใจทุ่มเทที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่สร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตคู่
การมาปรึกษานักจิตวิทยาคู่สมรสย่อมเป็นทางออกที่ดีสำหรับชีวิตคู่ เพราะนักจิตวิทยาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการช่วยรักษาและปรับปรุงสัมพันธภาพในชีวิตคู่ ด้วยความเชี่ยวชาญนักจิตวิทยาจะไม่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและชี้ให้ทั้งคู่เห็นสถานการณ์ในมุมมองจากบุคคลภายนอกเพื่อทำให้เราเข้าใจปัญหาชีวิตคู่ของเรามากขึ้น
ผลสำรวจ
จากรายงานพบว่าการมาพบนักจิตวิทยาคู่สมรส สามารถช่วยรักษาชีวิตคู่ไว้ได้ในอัตราที่ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับการไม่มาพบนักจิตวิทยา แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าในบางคู่การเลือกที่จะจบความสัมพันธ์เพราะไม่มีแนวทางในการรักษาสัมพันธภาพในชีวิตคู่ที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญ ปล่อยปัญหาชีวิตคู่ไว้เนิ่นนานโดยไม่มีการแก้ไขปรับปรุง การถูกนอกใจ หรือการไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นก็เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสัมพันธภาพในชีวิตคู่ อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขและควรเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูในสัมพันธภาพของการใช้ชีวิตคู่
จากสถิติพบว่าคู่แต่งงานมักจะมาพบนักจิตวิทยาคู่สมรสมากกว่ากว่า50%โดยเฉพาะในปีที่6 ของการแต่งงานซึ่งอาจจะช้าเกินไปควรมาทันทีเมื่อรู้สึกว่าชีวิตคู่กำลังมีปัญหาไม่ควรทนและปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน
จากผลสำรวจพบว่าการใช้เวลารอให้อีกฝ่ายรู้ตัวและเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองอาจทำให้สัมพันธภาพแย่ลงและอาจนำไปสู่การหย่าร้าง ดังนั้นการมาพบนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาชีวิตคู่นั้นนอกจากจะได้รับแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องแล้วยังช่วยปรับปรุงและสร้างความแข็งแรงให้กับการใช้ชีวิตคู่ยิ่งขึ้นอีกด้วยยิ่งมาเร็วยิ่งแก้ปัญหาได้เร็วและช่วยป้องกันผลกระทบต่อคนรับรอบข้าง
การมาพบนักจิตวิทยาช่วยรักษาชีวิตคู่ได้อย่างไร?
การสื่อสารเป็นตัวแปรสำคัญในปัญหาสัมพันธภาพ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ในชีวิตคู่จะได้ผลสำเร็จถ้าอีกฝ่ายยอมให้โอกาสอีกฝ่ายได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเอง
เคล็ดลับที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่คือต้องเลือกที่จะถกเถียงแต่ในเรื่องที่มีประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาชีวิตคู่เท่านั้น และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามนั้นย่อมต้องใช้เวลา การเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ดังนั้นความอดทนและความทุ่มเทระยะเวลาในการพัฒนาสัมพันธภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการปรับปรุงสัมพันธภาพการใช้ชีวิตร่วมกัน การเคารพและให้เกียรติกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทุกวันควรสร้างบรรกาศที่อบอุ่น มีความชื่นชม ให้อภัยยอมรับ และเปิดใจ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาและปลอดภัยในการใช้ชีวิต มีการพูดคุยอย่างเปิดใจ ไม่ปิดบังสิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่ดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ชีวิตคู่ที่ยั่งยืน
มุมมองของการมาพบนักจิตวิทยากับปัญหาชีวิตคู่
อย่ารอจนถึงขั้นวิกฤติแล้วจึงมาพบนักจิตวิทยาแต่ควรมาพบตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการมาพบนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตคู่นั้นช่วยให้เราตระหนักรู้ในสัมพันธภาพชีวิตคู่ที่เป็นปัญหาและอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตได้และเป็นการแสดงถึงจุดยืนว่าเราทั้งคู่ยังมีความแน่วแน่ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันโดยมีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงพัฒนาความสัมพันธ์ของการใช้ชีวิตคู่อย่างจริงจังให้เกิดความเข้าใจและให้เกิดความสุขในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปจนวันสุดท้าย
นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธชีวิตคู่จึงมีส่วนช่วยในเรื่องการสื่อสารระหว่างกันให้มีความเข้าใจมากขึ้นเพื่อให้คนทั้งคู่ได้สานสัมพันธ์ในการสร้างชีวิตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง ชีวิตแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายๆคู่ คนสองคนที่มาจากครอบครัวที่ต่างกันมาใช้ชีวิตร่วมกันย่อมมีความคาดหวังจากอีกฝ่ายที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามความคาดหวังนั้นควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและสมเหตุสมผลด้วยเสมอ
ปัญหาชีวิตคู่ในประเด็นใดที่ควรมาพบนักจิตวิทยา
การมาพบนักจิตวิทยาในประเด็นปัญหาชีวิตคู่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ายิ่งรู้ตัวไวก็จะทำให้การแก้ปัญหาชีวิตคู่นั้นมีประสิทธิภาพและลดความขัดแย้งได้เร็วขึ้น การทนใช้ชีวิตคู่ที่มีปัญหาและไม่ได้รับการแก้ไขมักสร้างความเสียหายให้เกิดแก่ทั้งคู่และคนที่รักรอบข้างโดยเฉพาะกับลูกๆส่งผลกระทบร้ายแรงจนยากจะแก้ไข การมาปรึกษานักจิตวิทยาเป็นการค้นพบหนทางและวิธีที่ช่วยแก้ไขปรับปรุงความสัมพันธ์การใช้ชีวิตคู่ให้ดีขึ้นในทุกๆวัน
การเรียนรู้พัฒนาเรื่องการสื่อสาร แก้ไขความขัดแย้ง รู้จักสร้างบรรยากาศให้โรแมติกและมีการควบคุมอารมณ์เวลาไม่พอใจจึงเป็นหลักการพื้นฐานที่สามารถช่วยพัฒนาความสัมพันธ์การใช้ชีวิตคู่ได้ และไม่มีชีวิตคู่ของใครในโลกที่จะสมบรูณ์แบบไปทุกอย่างจนอย่างไม่มีข้อติ หรือคู่ไหนที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีความเห็นต่าง ปราศจากความขัดแย้ง ดังนั้นการใช้ชีวิตคู่ชีวิตจึงต้องเรียนรู้ ศึกษากันและกันและมีวิธีรับมือเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างฉลาด มีทักษะในการแก้ปัญหาและสามารถนำชีวิตคู่กลับมาสู่ความสัมพันธ์อันดีตามเดิมให้ได้
อย่างไรก็ตามไม่ควรมองข้ามปัญหาเหล่านี้ หากมีประเด็นในคำถามดังต่อไปนี้ไม่ควรรอช้าควรมาพบนักจิตวิทยาโดยเร็วเพื่อได้รับแนวทางในการพัฒนาสัมพันธภาพและช่วยป้องกันความขัดแย้งรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อมา
ประเด็นปัญหาที่ควรมาพบผู้เชี่ยวชาญทันทีมีดังนี้
• ทั้งคู่มีความขัดแย้งเรื่อง ศาสนา ความเชื่อ หรือค่านิยมที่ต่างกัน
• วิจารณ์อีกฝ่ายบ่อยๆ
• กลัวและหลบเลี่ยงการถูกวิพากวิจารจากอีกฝ่าย
• รู้สึกไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคู่รักของตน
• รู้สึกด้อยค่า รู้สึกขุ่นเคือง รู้สึกถูกเอาเปรียบจากอีกฝ่าย
• มักเกิดปัญหาเวลาสื่อสาร ทำให้สถานการณ์แย่ลงทุกครั้งที่พูดคุย
• รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลย
• รู้สึกว่านับวันความสัมพันธ์ยิ่งห่างไกลกันหรือไม่
• เกิดเหตุการณ์นอกใจ ติดสารเสพติด ติดสุรา มีการทำร้ายร่างกายใช้ความรุนแรง
นอกจากนี้แล้วหากพบว่าชีวิตคู่มีปัญหาจนเกินที่จะจัดการได้ด้วยตนเอง เช่นรู้สึกว่าสัมพันธภาพของทั้งคู่แย่ลงและไม่มีการสร้างความสัมพันธ์อันดีเพิ่มขึ้น ยิ่งนานวันยิ่งสะสมความไม่พอใจมากขึ้น ถูกกดดันสร้างความเครียดสะสม หรือมีความขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าควรมาปรึกษานักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วและไม่ควรรอช้า
การบำบัดเน้นอะไรบ้าง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบำบัดปัญหาชีวิตคู่คือการที่คนสองคนต้องพร้อมใจกันในการแก้ไขปรับปรุงชีวิตคู่อย่างจริงจัง และยอมเปิดใจพร้อมที่จะไปกับกระบวนการในการทำบำบัดและปฎิบัติตามวิธีการแก้ไขฟื้นฟูอย่างจริงใจ
การมาพบนักจิตวิทยาเป็นการตั้งใจที่จะแก้ไขชีวิตคู่ให้ดีขึ้น และเมื่อความตั้งใจนี้เกิดขึ้นทักษะการช่วยเหลือชีวิตคู่ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักจิตวิทยาสามารถที่จะผสมผสานทักษะที่เชี่ยวชาญในการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมความมีเหตุผลจากทั้งคู่ สิ่งแวดล้อมที่เบาะบางแต่มีพลังบวก ความอ่อนโยน และโรแมนติกในการช่วยรักษาบาดแผลทางจิตใจ และเป็นแรงเสริมให้พัฒนาไปสู่สัมพันธภาพชีวิตคู่ที่แข็งแรงขึ้น
บรรยากาศที่ดีในกระบวนการบำบัดจะเกิดขึ้นได้เมื่อทั้งคู่มีความเข้าใจและเปิดใจในการรับการบำบัด มีความตั้งใจที่จะพัฒนาชีวิตคู่สานความสัมพันธ์ไม่ว่าจะอยู่ในกระบวนการบำบัดและหลังเสร็จสิ้นกระบวนการก็ตาม
การที่ต่างฝ่ายสามารถมองเห็นปัญหาของตนเองและกล้าที่จะออกยอมรับและนำปัญหาเหล่านั้นไปแก้ไขปรับปรุงได้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการทำจิตบำบัดชีวิตคู่ อย่างไรก็ตามทั้งคู่ต้องให้ความร่วมมือและเปิดใจในการแก้ไขปรับปรุงโดยมองไปที่เป้าหมายข้างหน้าร่วมกัน
ความคาดหวัง
นักจิตวิทยาจะช่วยให้การสื่อสารของทั้งคู่ได้รับการรับฟังซึ่งกันและกัน ทำให้การสื่อสารของทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น ทำให้คนทั้งคู่ได้มีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามการสื่อสารควรอยู่ในบรรยากาศที่ปลอดภัย และทั้งคู่ยอมรับได้
หากรู้สึกว่ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่มีปัญหาในการสื่อสารนักจิตวิทยาก็จะมีวิธีปรับทัศนคติ สร้างความไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยเพื่อให้เกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความคาดหวังในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันของคนสองคนควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงพื่อให้ทั้งคู่ได้ดำเนินชีวิตไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีความสุข นักจิตวิทยาจะช่วยเน้นทักษะการสื่อสารและพูดคุยอย่างมีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ เปิดใจรับฟังและให้แนวทางทักษะในการแก้ไขปัญหาชีวิตคู่เพื่อรักษาสัมพันธภาพที่ดีในการใช้ชีวิตร่วมกัน
ระยะเวลาที่ใช้
แต่ละคู่ใช้ระยะเวลาไม่เท่ากันนักจิตวิทยาสามารถช่วยเสริมทักษะการใช้ชีวิตคู่และทักษะการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่อย่างมีแนวทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามยังมีหลายประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญต้องตระหนักถึงและมักเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือด้านจิตใจมีดังนี้
การทำบำบัดชีวิตคู่จะสำเร็จได้ต้องพัฒนาประสิทธิภาพด้านความสัมพันธ์แบบมีวุฒิภาวะ มีการปรับตัวเข้าหากันของทั้งคู่ มีการสานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ประโยชน์ของการทำบำบัดชีวิตคู่มีอยู่มากมาย และมีข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถช่วยรักษาชีวิตคู่ ชีวิตสมรส ชีวิตแต่งงานไว้ได้มากมายหากได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นหากมีปัญหาเรื่องสัมพันธภาพในชีวิตคู่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้แต่ควรมาพบนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้รับคำแนะนำและลงมือแก้ไขให้ถูกทางในทันที
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตคู่นั้นนอกจากจะให้คำปรึกษาชี้ให้ตระหนักถึงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดปัญหาต่อชีวิตคู่แล้ว ยังช่วยส่งเสริมแนวทางการเชื่อมสัมพันธภาพของชีวิตคู่ให้เข้าใจกันปรับตัวเข้าหากันอย่างมีแนวทางอีกด้วย บางครั้งปมปัญหาในอดีต บาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการรักษาก็อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การใช้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นการบำบัดปัญหาชีวิตคู่อาจไม่ใช่แค่การแก้ไขประเด็นในความขัดแย้งของชีวิตคู่เท่านั้นแต่อาจต้องแก้ไขรักษาปมในอดีตของแต่ละคู่ที่มาใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อรู้ถึงสาเหตุของปัญหาและหาทางออกร่วมกัน
อ้างอิง
https://clintonpower.com.au/2014/07/couples-retreat-focusing-on-your-relationship/
https://www.verywellmind.com/does-marriage-counseling-work-2300428
https://www.verywellmind.com/is-it-too-late-for-couples-therapy-5191478